วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ตำนานปืนสั้น

ปืนสั้น หรือ ปืนพก ปืนที่สามารถถือยิงได้ด้วยมือเดียว แต่โดยมากเรียกรวมกันว่าปืนสั้น มี สอง แบ่งตามลักษณะของการเก็บกระสุน ได้แก่ ลูกโม่ และ แบบที่มีการเก็บกระสุนต่อรวมเข้ากับลำกล้อง ซึ่งยังจำแนกต่อไปได้อีก
นอกจากนี้แล้ว ปืนสั้น ยังหมายรวมถึง ปืนสั้นยิงทีละนัด, ปืนลูกโม่, ปืนสั้งกึ่งอัตโนมัติ และปืนสั้นอัตโนมัติ.
เรามาดูปืนที่ได้รับความนิยมกันครับ
ประวัติคร่าวๆของผู้ผลิตอาวุธปืน Colt
เอ่ยคำว่า “Colt” เชื่อได้ว่านักนิยมปืนทั่วโลกต้องรู้จักในฐานะผู้ผลิตปืนสั้นอันมีชื่อเสียงต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคที่ใช้ปืนใช้กระสุนดินดำจนถึงปัจจุบัน จากปืนลูกโม่ Single Action (Colt Walker) มาถึง Single Action Army ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 1911 (M-1911 หรือ Government Model) ตลอดจนลูกโม่ดับเบิล (Python) แม้แต่ปืนสั้นลูกกรด (Colt Woodsman) ล้วนเป็นปืนมีระดับที่นักสะสมใฝ่หากันมาก ซึ่งบริษัท Colt ก็ให้การสนับสนุนด้านข้อมูลเป็นอย่างดี ผู้ที่สนใจสามารถสืบค้นประวัติความเป็นมาต่างๆได้
ในปีที่ Colt ฉลองครบรอบ 150 ปี เป็นปีที่ปืน 1911 ปลดระวางจากกองทัพสหรัฐอเมริกา จากศตวรรษ 1800, 1900 Colt เข้าสู่ศตวรรษที่สามคือ 2000 แบบไม่ค่อยมั่นคงนัก ถ้าเป็นคนก็เหมือนเข้าสู่วัยชราแบบไม้ใกล้ฝั่ง แต่ในทางตรงกันข้าม หลังจากที่สิทธิบัตรคุ้มครองปืน 1911 หมดอายุไป 1911 กลายเป็นตัวเก่งให้หลายๆบริษัทสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นใหม่ได้

คำว่า 1911 คืออะไร
1911 เป็นปีที่ Colt ผลิตปืนกึ่งอัตโนมัติ ผลิตให้กับทหารสหรัฐในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตั้งแต่ปี 1914 ถึง 1918 และ Colt ได้จดสิทธิบัตรปืนกึ่งอัตโนมัติไว้ว่าห้ามลอกเลียนแบบ คำว่า 1911 คือชื่อของแบบแผนปืนกึ่งอัตโนมัติที่ Colt ได้จดสิทธิบัตรไว้ หลังจากสิทธิบัตรคุ้มครองแบบแผนปืน 1911 สิ้นสุดลง ในช่วงปี ค.ศ. 1985 หลายบริษัท เลยหันมาผลิตปืนแบบ 1911 กันจำนวนมาก 
ที่มาของคำว่า Government
ในช่วงสงครามโลก รัฐบาลสหรัฐได้ให้บริษัทผลิตปืนได้ผลิตปืนในแบบ 1911 ขึ้นมา และมีเงื่อนไขว่า ปืนทุกกระบอกต้องเหมือนกัน และสลับชิ้นส่วนกันได้ เลยเป็นที่มาของคำว่า Government หมายถึง ปืนของรัฐบาล และ ตั้งแต่สงครามสงบลง Colt จึงนำปืนมาออกจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป หลังจากที่ทหารเท่านั้นที่นำปืนมาใช้ในการแข่งขันยิงเป้า ก็มากลายเป็นยุคของประชาชนที่นำปืนมาแข่งขันยิงเป้า ซึ่ง Colt ได้ตั้งชื่อปืนในตระกูล 1911 ว่า Colt Government หรือ Government Model

ประวัติปืนลูกโม่
ปี ค.ศ. 1836 แซมมวล โค้ลท์ (Sammual Colt) นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันคิดประดิษฐ์ปืนรีวอลเวอร์ซิงเกิ้ลแอ็คชั่นขึ้นมาได้สำเร็จ ทำให้เขากลายเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา และของโลกในเวลาต่อมา
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1836 แซมมวล โค้ลท์ ตั้งบริษัทขึ้นภายใต้ชื่อ เปเตนท์ อาร์ม แมนูแฟคเจอริ่ง คอมปานี (Patent Arms Manufacturing Company) ตั้งอยู่ที่เมืองแพ็ทเตอร์สัน ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนิวเจอร์ซี่ สำนักงานขาย และสถานที่แสดงอาวุธปืนตั้งอยู่ เลขที่ 155 ถนนบรอดเวย์ใช้เงินทุนทั้งหมดจำนวนถึง 300,000 เหรียญสหรัฐ
โค้ลท์ประสบความสำเร็จในการขายโค้ลท์ โมเดล 1873 ซิงเกิ้ล แอ็คชั่น อาร์มี่ ให้แก่กองทัพสหรัฐฯที่รับเข้าประจำการในปีค.ศ. 1873 ตลอดไปจนถึงการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ มีการผลิตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีค.ศ. 1871 นับจนถึงปีค.ศ. 1980 ยาวนานถึง 69 ปี มีจำนวนการผลิตออกมาทั้งสิ้น 357,895 กระบอก
แซมมวล โค้ลท์ เสียชีวิตลงเมื่อ วันที่ 10 มกราคม ค.ศ.. 1862 ด้วยวัยเพียง 47 ปี ซึ่งในช่วงเวลาที่เขามีชีวิตอยู่นั้น โค้ลท์มีการผลิตปืนรีวอลเว่อร์ และปืนไรเฟิ่ลแบบต่างๆ ออกมามากกว่า 400,000 กระบอก ส่งผลให้โค้ลท์กลายเป็นบริษัทผลิตอาวุธปืนยักษ์ใหญ่อันดันหนึ่งของสหรัฐอเมริกา
นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา โค้ลท์ได้มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทหลายครั้ง โดยมีลำดับดังนี้
- ค.ศ. 1836 - 1842 โค้ลท์ล’ส เปเต้นท์ ไฟร์ อาร์มส แมนูแฟคเจ้อร์ คอมปานี(Colt’s Patent Fire Arms Mfg.Co.)
- ค.ศ. 1847 - 1947 โค้ลท์’ส แมนูแฟคเจอริ่ง คอมปานี(Colt Manufacturing Co.)
- ค.ศ. 1947 - 1955 โค้ลท์’สแมนูแฟคเจอริ่ง คอมปานี (Colt Manufacturing Co.)
- ค.ศ. 1955 - 1964 โค้ลท์’ส เปเต้นท์ ไฟร์อาร์มส แมนูแฟคเจ้อร์ คอมปานี(Colt’s Patent Fire Arms Mfg.Com)
- ค.ศ. 1964 - 1989 โค้ลท์’ส ไฟร์อาร์มส ดิวิชั่น, โค้ลท์ อินดัสตรี้ส์(Colt Firearms Division, Colt Industries)
- ค.ศ 1989 โค้ลท์’ส แมนูแฟคเจอริ่ง คอมปานี อิงซ์(Colt Manufacturing Coท.,Inc)
ช่วงปีค.ศ. 1890 หลังจากที่แซมมวล โค้ลท์ เสียชีวิตได้ 26 ปี ได้เริ่มมีความพยายามในการพัฒนาปืนระบบอัตโนมัติขึ้นในยุโรปซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ในสหรัฐอเมริกากำลังให้ความนิยมปืนรีวอลเวอร์กันอย่างกว้างขวาง ปืนที่ประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายก็คือ โค้ลท์ โมเดล 1873 ซิงเกิ้ล แอ็คชั่น อาร์มี่ ที่โค้ลท์เป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้นมา
แต่บริษัทโค้ลท์มองการณ์ไกล และตระหนักดีว่าถ้าหากปืนระบบออโต้ฯได้รับการพัฒนาจนกระทั่งมีความเชื่อถือได้ในระบบปฏิบัติการ ก็จะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญที่น่ากลัวของปืนรีวอลเว่อร์
จุดนี้เองที่ทำให้บริษัทโค้ลท์เริ่มแสวงหาแบบแปลนของปืนออโต้ฯเท่าที่จะสามารถหาได้มาทำการทดสอบเพื่อหาแบบที่ดีที่สุดมาทำการผลิต เป็นการตอบสนองตามข้อตกลงที่มีอยู่กับกองทัพสหรัฐฯที่ต้องการปืนออโต้ฯที่ใช้กระสุนขนาดใหญ่ที่มีอานุภาพใกล้เคียงกับ .45 ของโค้ลท์
หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือปืนที่ จอห์น โมเสส เบราว์นิ่ง ออกแบบ และถือเป็นจุดกำเนิดของ โค้ลท์ โมเดล 1911 ปืนกึ่งอัติโนมัติที่เป็นอมตะไม่มีวันตาย
ประวัติคร่าวๆของผู้ผลิตอาวุธปืน Colt
เอ่ยคำว่า “Colt” เชื่อได้ว่านักนิยมปืนทั่วโลกต้องรู้จักในฐานะผู้ผลิตปืนสั้นอันมีชื่อเสียงต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคที่ใช้ปืนใช้กระสุนดินดำจนถึงปัจจุบัน จากปืนลูกโม่ Single Action (Colt Walker) มาถึง Single Action Army ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 1911 (M-1911 หรือ Government Model) ตลอดจนลูกโม่ดับเบิล (Python) แม้แต่ปืนสั้นลูกกรด (Colt Woodsman) ล้วนเป็นปืนมีระดับที่นักสะสมใฝ่หากันมาก ซึ่งบริษัท Colt ก็ให้การสนับสนุนด้านข้อมูลเป็นอย่างดี ผู้ที่สนใจสามารถสืบค้นประวัติความเป็นมาต่างๆได้
ในปีที่ Colt ฉลองครบรอบ 150 ปี เป็นปีที่ปืน 1911 ปลดระวางจากกองทัพสหรัฐอเมริกา จากศตวรรษ 1800, 1900 Colt เข้าสู่ศตวรรษที่สามคือ 2000 แบบไม่ค่อยมั่นคงนัก ถ้าเป็นคนก็เหมือนเข้าสู่วัยชราแบบไม้ใกล้ฝั่ง แต่ในทางตรงกันข้าม หลังจากที่สิทธิบัตรคุ้มครองปืน 1911 หมดอายุไป 1911 กลายเป็นตัวเก่งให้หลายๆบริษัทสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นใหม่ได้

Colt M-1911 World War I Replica (.45 ACP)
Colt 1911 World War I Replica เป็นปืนที่ Colt ทำส่งให้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาเมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี 1914 ถึง 1918

Colt M-1911 A1 (.45 ACP)
Colt 1911 A1 เป็นปืนที่กองทัพสหรัฐเคยใช้เป็นปืนประจำการและเคยถูกใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2

คำว่า 1911 คืออะไร
1911 เป็นปีที่ Colt ผลิตปืนกึ่งอัตโนมัติ ผลิตให้กับทหารสหรัฐในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตั้งแต่ปี 1914 ถึง 1918 และ Colt ได้จดสิทธิบัตรปืนกึ่งอัตโนมัติไว้ว่าห้ามลอกเลียนแบบ คำว่า 1911 คือชื่อของแบบแผนปืนกึ่งอัตโนมัติที่ Colt ได้จดสิทธิบัตรไว้ หลังจากสิทธิบัตรคุ้มครองแบบแผนปืน 1911 สิ้นสุดลง ในช่วงปี ค.ศ. 1985 หลายบริษัท เลยหันมาผลิตปืนแบบ 1911 กันจำนวนมาก

Colt M-1911 A1 (.45 ACP)
เมื่อเอ่ยถึง Colt 1911 ผู้ที่รู้จักหรือคุ้นเคยกับอาวุธปืนอยู่บ้าง ย่อมจะนึกถึงปืนสั้นออโต้แบบกัฟเวอร์นเมนท์โมเดล ขนาด .45 ACP ของโรงงาน Colt กันแทบทุกคน โดยเฉพาะท่านที่เป็นทหารรุ่นเก่าของไทยย่อมจะต้องรู้จักคุ้นเคยเป็นพิเศษ เนื่องจากปืน Colt ออโต้โมเดลนี้มีชื่อเสียงกิติศัพท์อันเกรียงไกรมาจากพื้นฐานซึ่งเป็นปืนทหารมาก่อน นับตั้งแต่กองทัพบกของสหรัฐอเมริกาเข้ารับประจำการในปี ค.ศ. 1911 จึงเป็นที่มาของคำว่า “โมเดล 1911” หลังจากผ่านการทดสอบของกองทัพมาเป็นเวลาเกือบห้าปี ต่อมา ปืนโคลท์ กัฟเวอร์นเมนท์ โมเดล 1911 ได้รับการปรับปรุงอีกเล็กน้อยในทศวรรษแห่งปี 1920 จึงได้เปลี่ยนเป็น “โมเดล 1911 A1” นับตั้งแต่นั้นมา

ด้วยเหตุที่ปืนโมเดล 1911 ที่กองทัพสหรัฐฯ แจกจ่ายให้ทหารของตน หรือส่งไปช่วยเหลือกองทัพประเทศพันธมิตร มีอักษรข้อความว่า UNITED STATES PROPERTY อยู่ทางด้านซ้ายของโครงปืน และโดยเฉพาะมีอักษรบอกข้อความอยู่ทางด้านขวาของโครงปืนว่า MODEL OF 1911 U.S. ARMY หรือ NAVY แต่ส่วนมากจะเป็น U.S. ARMY จึงทำให้นักเลงปืนชาวบ้านทั่วไปพากันเรียกปืนโมเดลนี้ว่า “ปืนยูเอส อาร์มี” หรือ “ยูเอส” เฉยๆ หรือไม่ก็เรียกว่า ปืนขนาดสิบเอ็ด ตามขนาดของปืนหรือกระสุนที่ใช้ยิงไปเสียเลย สาเหตุที่ผู้ใช้ปืนบ้านเรานิยมเรียกกระสุน .45 ACP ว่า สิบเอ็ดมอมอ เพราะยังยึดติดไปตามระบบเมตริกของกระสุนปืนจากยุโรปอยู่ จึงไม่ค่อยได้เรียกกันว่าขนาดจุดสี่ห้าสักเท่าใดนัก

หากกล่าวถึงปืนออโตแบบ 1911 โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนมากก็จะนึกถึงปืนขนาด .45 เอซีพี ทั้งๆที่โคลท์ก็ผลิตปืนโมเดลนี้ออกมาในขนาด .38 Super และ 9mm Luger ด้วย แต่เป็นเพราะคนรู้จักคุ้นเคยกับปืนขนาด .45 ACP มาก่อนนั่นเอง อย่างไรก็ตาม นักเล่นปืนในบ้านเราก็ให้ความนิยมปืน Colt 1911 ขนาด .38 Super รองลงมาจากขนาด .45 เอซีพี หรือ 11 มม. สาเหตุหลักมาจากการขอใบอนุญาต ป.3 สำหรับปืนขนาด .38 ได้ง่ายกว่า แต่ปัจจุบันนักยิงปืนระบบไอพีเอสซีนิยมใช้ปืนออโต้ 1911 ขนาด .38 Super ยิงแข่งขัน ปืนขนาด .38 Super จึงได้รับความนิยมขึ้นมาใกล้เคียงกับปืนขนาด .45 ACP นอกจากนี้กระแสความนิยมในปืนสั้นออโตวันเดอร์ไนน์มีส่วนช่วยเสริมให้เกิดความนิยมปืนออโต้ 1911 ในขนาด 9 มม. ไปด้วย แต่ปืนออโต้ 1911 ขนาด 9 มม. นี้มีวางจำหน่ายอยู่ไม่มาก เพราะร้านขายปืนของไทยไม่ค่อยสั่งเข้ามา ทั้งๆแต่เดิมบริษัทโคลท์ก็ผลิตปืนออโต้ 1911 ในขนาด 9 มม. ลูเกอร์มานานแล้ว เมื่อประมาณ 20-30 ปีก่อนหน้านี้ ผู้เขียน Colt Combat Commander ขนาด .38 Super และ 9 มม. มีวางจำหน่ายอยู่ประปรายบ้าง ในปัจจุบันปืนออโต้ 1911 ขนาด 9 มม. เริ่มสั่งเข้ามาขายมากขึ้นทั้งที่เป็นแบบลูกดกและลูกไม่ดก แต่เป็นปืนยี่ห้ออื่นมากกว่า ยี่ห้อโคลท์เจ้าเก่าหรือเจ้าตำรับยังสั่งเข้ามาน้อย จนแทบจะเรียกว่าหายากส่วนมากจะเห็นเป็นปืนมือสองครับ

คราวนี้หันมาดูปืนออโต้ 1911 ของโคลท์กันบ้าง หลังจากมีการปรับปรุงเป็นรุ่น 1911A1 ก็มีการเปลี่ยนแปลงบูชลำกล้องจากรูปทรงกระบอกทึบไปเป็นแบบกลีบจำปาในปี 1970 เรียกว่า Series 70 และได้เพิ่มตัวกั้นเข็มแทงชนวน หรือสมอล็อกเข็มแทงชนวนเข้ามาอีกเมื่อปี 1980 เรียกว่า Series 80 แต่ปัจจุบัน แม้ว่าปืน Colt 1911A1 จะเปลี่ยนแปลงโฉมภายนอกให้เหมือนปืนซิ่งมากขึ้นตามกระแสความนิยมซึ่งก็ยังเรียกว่าเป็น Series 80

Colt M-1991A1 (.45 ACP)
ในปี 1991 โคลท์ได้ผลิตปืน Model 1991A1 ขึ้นมา ซึ่งฟังดูแล้วน่าจะเป็นการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของปืนโคลท์ 1911 แต่กลับเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีหรือรูปแบบการผลิตเสียมากกว่า คือการแต่งผิวโลหะค่อนข้างด้านแบบปืนทหาร และรมออกสีเขียวๆอยู่บ้าง ส่วนหนึ่งที่เน้นคือราคาประหยัดมากขึ้นเพราะในช่วงเวลานั้นราคาของปืนโคลท์ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ว่ากันว่าเหล็กที่ใช้ทำปืนออโต้ 1991A1 ของโคลท์เป็นเหล็กที่มีคุณภาพแข็งแกร่งทนทานอย่างเดียวกับที่ใช้ทำปืนทหารมาก่อน ดังนั้น จึงพอหนุมานได้ว่า Colt 1991A1 เป็นปืนที่เน้นไปทางด้านการใช้งานสมบุกสมบันมากกว่าความสวยงามสะดุดตา นอกเหนือจากนี้แล้วก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากปืน Series 80 ของ Colt เอง ด้วยเหตุนี้จึงมีนักนิยมปืนที่มองเห็นข้อดีของ Colt 1991A1 แล้วซื้อมาแต่งซิ่งตามที่ใจชอบอีกประการหนึ่งทางโรงงาน Colt โฆษณาว่า Colt 1991A1 เป็นปืนที่ถ่ายทอดลักษณะดั้งเดิมของ Colt 1991A1 มาเกือบทุกกระเบียดแต่มีทั้งแบบ Government Model กับแบบ Commander และมีทั้งทำด้วยเหล็กรมดำและเหล็กสเตนเลสส์ ช่วยให้ผู้ใช้ปืนที่นิยมปืนรุ่นเดิมๆ มีโอกาสเลือกได้บ้าง
ขอบคุณ
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=110dec62710031d6&pli=1
Colt Gold Cup
โมเดลแรกที่โรงงาน Colt ทำออกมาเพื่อยิงเป้าคือ Colt National Match แตกต่างจากปืนสายยิงคนคือ เลิกเอาลำกล้องที่คัดพิเศษ โดยมีหลักการว่า จำนวนหนึ่งพันลำกล้องของล็อตนี้ สองร้อยลำแรกเครื่องจักรยังไม่เสถียร เพิ่งเริ่มเดินเครื่องก็เอาไว้เป็นลำกล้องยิงคน สามร้อยถึงเจ็ดร้อยอันต่อมาถือว่าเครื่องจักรเดินนิ่งดีแล้วก็คัดเอาไว้ก่อน สามร้อยอันสุดท้ายของล็อตก็จัดไปเข้ากลุ่มลำใช้งานทั่วไปที่คัดมาดีๆนั้นมาเลือกเอาเรียบร้อยที่สุดไว้สักสองร้อยอันเพื่อมาประกอบกับลำเลื่อนที่ทำขึ้นต่างหากโดยเจาะรูเจาะช่องให้ประณีตกว่า มีสันลำกล้องให้เป็นแนวเล็งนำสายตา และเซาะร่องละเอียดกันแสงสะท้อน ใส่ศูนย์หลังแบบปรับได้สี่ทาง ใบศูนย์ใหญ่เล็งง่าย รุ่นแรกๆมีศูนย์สองยี่ห้อ คือ แอคโคร และ เอดิสัน ศูนย์หน้าเป็นแบบยกสูงตัดฉากหลังต่างจากศูนย์รูปวงเล็บจุ๋มจิ๋มของปืนสายยิงคน

บูชลำกล้องและหลอดครอบสปริงทำมาเป็นพิเศษ โดยหลอดครอบสปริงตรงปลายจะเป็นลาดเอียงหรือเทเปอร์ เพื่อให้รับกับบู้ชลำกล้องที่ทำลาดเอียงไว้รับกัน เพื่อให้ล็อคลำกล้องนิ่งกว่าปกติ ซึ่งทำเป็นบ่าไว้เฉยๆ ไกก็ทำหน้ากว้างกว่าปกติ มีหมุดหยุดไกปรับได้ละเอียดมากด้วย นอกนั้นนกและหลังอ่อนก็ยังเหมือนปืน Government แต่จะทำผิวรมดำมาชนิดดีพบลูสวยงามกว่า เพราะแน่นอนละว่า ปืน National Match ขายราคาแพงกว่าโขอยู่ และเมื่อลงสู่สนามแข่งขัน มันก็ประสบความสำเร็จงดงาม จน Colt ผลิตรุ่นต่อๆมา โดยเพิ่มคำว่า ถ้วยทอง หรือ Gold Cup สาไว้หน้าชื่อ National Match
ขอบคุณhttp://cgsc.rta.mi.th/cgsc/index.php?option=com_content&view=article&id=529:87169-colt&catid=7:88&Itemid=25
เเละ
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=110dec62710031d6

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น